วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555





เรื่อง การซื้อขาย

ความหมายของการซื้อขาย
การซื้อขาย  ตามหลักภาษาหมายถึง การแลกเปลี่ยนสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่ง
การซื้อขาย คือ การแลกเปลี่ยนสิ่งของกับสิ่งของ หรือสิ่งของกับเงินระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อโดยแน่ชัด
การซื้อขาย คือ การแลกเปลี่ยนทรัพย์สินด้วยทรัพย์สินเพื่อครอบครอง
หลักการซื้อขาย
การซื้อขายเป็นสิ่งที่อนุมัติ โดยมีหลักฐานจากอัลกุร-อานกล่าวไว้ความว่า
" และอัลลอฮทรงอนุมัติในเรื่องการค้า และทรงห้ามเรื่องดอกเบี้ย "
                                                                            ( สูเราะฮอัล-บะเกาะเราะฮ อายะที่275)
จากหะดีษ
ท่ายนบีมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวไว้ความว่า
" การประกอบอาชีพที่ดีที่สุดนั้น คือ การค้าขายสิ่งที่ดีและการที่บุคคลหนึ่งประกอบอาชีพด้วยมือของเขาเอง


อิสลามได้วางหลักการค้าขายดังนี้
1.ห้ามคดโกง
2.ต้องรักษาสัญญาอย่างมั่นคง
3. อนุญาติให้มีการแข่งขันเชิงคุณภาพในการค้าโดยให้อุปสงค์และอุปทานเป็น 
    ตัวกำหนดราคา
4.รัฐมีสิทธิที่จะเข้าไปแทรกแซง เมื่อผู้ประกอบการตั้งราคาสินค้าสูงเกินไป เช่น ใน 
 ยามสงคราม หรือเมื่อมีการกักตุนสินค้าเพื่อหวังกำไร
5.ห้ามการผูกขาดทุกรูปแบบ
5.รัฐต้องอำนวยความสะดวกให้เป็นไปตามความเหมาะสมเพื่อให้มีการซื้อขายเกิดสภาพ
   คล่องตัวขึ้น เช่น การคมนาคม



องค์ประกอบของการซื้อขาย ( รุกนการซื้อขาย)
การซื้อขายจะเกิดขึ้นได้นั้นจะต้องมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
1.ผู้ขายและผู้ซื้อ
2.สินค้าและราคาสินค้า
3.การเสนอขายและการตอบรับ



เงื่อนไขของการซื้อขาย
การซื้อขายที่สมบูรณ์และถูกต้องนั้นจะต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1.              ผู้ขายและผู้ซื้อ
      จะต้องเป็นผู้ที่บรรลุศาสนภาวะ
     มีสติสัมปชัญญะ
     มีอิสระในการซื้อขาย
      ถ้าผู้ขายหรือผู้ซื้อเป็นผู้ที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ หรือเป็นผู้วิกลจริต หรือเป็นคนปัญญา 
       อ่อนหรือเป็นผู้ที่ถูกบังคับให้ทำการซื้อขาย การซื้อขายนั้นถือว่าเป็นโมฆะ  ดังหะดีษความว่า    "แท้จริงการซื้อขายนั้นจะต้องด้วยการยินยอมต่อกัน"
                                                                                รายงานโดยอิบนุฮิบบาน และอิบนุมาญะฮ
2.              สินค้า
  สะอาด  จะต้องเป็นสินค้าที่สะอาดตามศาสนบัญญัติ เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ อิสลามไม่อนุมัติ  
   ให้ขายสินค้าที่ต้องห้ามตามศาสนบัญญัติ เช่น ของมึนเมา สัตว์ที่ตายเอง สุกร และสิ่งที่ใช้
 สักการะบูชา เช่น รูปเคารพ ท่านนบีมูฮัมหมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
    " อัลลอฮทรงห้ามขายของมึนเมา  สัตว์ที่ตายเอง สุกร และเจว็ด"
                                                                                             ( รายงานโดยบุคอรี และมุสลิม )
   สินค้าที่เปื้อนนะญิสแต่สามารถชำระให้สะอาดได้ เช่น เนยแข็ง ให้ตักนะญิสและรอยเปื้อน 
   ออกไป ก็เป็นที่อนุมัติให้ขายได้ แต่ถ้าหากสินค้าที่เปื้อนนะญิสนั้นเป็นของเหลว เช่น นม  
   น้ำผึ้งก็ไม่เป็นที่อนุมัติให้ทำการขาย
·       มีประโยชน์  ต้องเป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดประโยชน์ อิสลามไม่อนุมัติให้ขายสินค้าที่ไม่  
ก่อให้เกิดประโยชน์ และที่เป็นโทษต่อร่างกาย เช่น ยาพิษ ยาเสพย์ติดต่าง ๆ
·       เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขาย ผู้ขายต้องมีกรรมสิทธ์ในสินค้านั้น เช่น เป็นผู้จัดการหรือเป็นตัวแทนในการขายสินค้าโดยสมบูรณ์ ถ้าหากว่าผู้ขายไม่ได้รับสิทธิ์ในการจัดการขายสินค้านั้น การขายของเขาถือว่าเป็นโมฆะ ท่านนบีมูฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
                                   " ไม่มีการขายจนกว่าท่านจะเป็นเจ้าของเสียก่อน "
                                                                                         ( รายงานโดยอบูดาวูดและตีรมีซี )

·       สามารถมอบให้ผู้ซื้อได้  ผู้ขายจะต้องส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อได้ทันที หรือจะด้วยสัญญาซื้อขายก็ได้ ไม่อนุญาตให้ขายสินค้าที่ผู้ขายไม่สามารถจะส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อได้ เช่น สิ่งที่ที่หาย
·       สินค้ามีลักษณะที่แน่นอน  ผู้ขายจะต้องระบุรายละเอียดของสินค้าให้แน่นอนเช่น ราคา ขนาด ปริมาณ อิสลามไม่อนุญาตให้ขายสินค้าที่ผู้ขายและผู้ซื้อไม่ชนิด ราคา ขนาดปริมาณที่แน่นอน
3.              การเสนอขาย – การตอบรับ
ในการซื้อขายนั้นจะต้องมีการเสนอขายและการตอบรับ เช่น ผู้ขายกล่างว่า " ฉันขายสินค้านี้ให้กับท่านด้วยราคาตามที่ตกลงกัน " ผู้ซื้อจะตอบว่า " ฉันยอมรับการขายตามราคาดังกล่าว"
การเสนอขายและการตอบรับ จะต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1.             จะต้องไม่ทิ้งช่วงหรือพูดเรื่องอื่นระหว่างการเสนอขายกับการตอบรับ
2.             การเสนอขายและการตอบรับนั้นต้องให้สอดคล้องกัน
3.             ในการเสนอขายและตอบรับนั้นจะต้องใช้คำที่แน่ชัด
การเสนอขายและตอบรับด้วยลายลักษณ์อักษร
อิสลามอนุมัติการซื้อขายด้วยลายลักษณ์อักษร เช่น ในกรณีที่ผู้ขายกับผู้ซื้ออยู่ไกลกันไม่สามารถพูดกันได้




เรื่อง  การซื้อขายที่อิสลามห้าม
อิสลามห้ามซื้อขายสินค้าหลายลักษยะ ถึงแม้ว่าการซื้อขายนั้นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขก็ตาม ทั้งนี้โดยมีหลักเกณฑ์กว้าง ๆ ว่า การซื้อขายที่อนุมัตินั้นต้องไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ทำให้ราคาสูงเกินไป และไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วนแก่สังคม
การซื้อขายที่อิสลามห้ามมีดังนี้
1.การซื้อขายที่คนอื่นกำลังต่อรองกันอยู่
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
  ห้ามคนหนึ่งคนใดต่อรองในขณะที่พี่น้องของเขากำลังต่อรองอยู่ ”
                                                                         ( รายงานโดย บุคอรี และ มุสลิม )
2.การขายสินค้าก่อนที่ผู้ขายจะเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
การขายสินค้าก่อนที่ท่านจะเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์นั้นไม่ถูกต้อง
                                                                          ( รายงานโดย อัล-บัยฮะกี )
3.การขายลูกสัตว์ที่อยู่ในท้องแม่
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
.................ห้ามการขายลูกสัตว์ที่ยังอยู่ในท้องแม่
                                                                           ( รายงานโดย บุคอรี และ มุสลิม )
4.การขายองุ่นหรือพืชผลอื่น ๆ ที่ผู้ขายทราบว่าผู้ซื้อจะนำไปปรุงเป็นของมึนเมา
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
“ ผู้ใดปล่อยองุ่นสุกไว้โดยไม่เก็บ ต่อจากนั้นเขาก็ขายให้แก่ผู้ที่จะนำไปทำเป็นของมึนเมาก็เท่ากับว่าเขาได้กระโจนลงไปในไฟนรก ทั้งๆ ที่เขารู้ ”
                                                                           ( รายงานโดย อัฏ-ฏ็อบรอนี )
5.การขายผลไม้ที่อยู่บนต้นไม้
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
“ ห้ามขายผลไม้จนกว่าจะกว่าจะสุกงอม( เหมาะที่จะขายได้ )”
                                                                            ( รายงานโดย บุคอรี และ มุสลิม )
6.การซื้อสินค้าเพื่อกักตุน
ท่านนบีมุฮัมมัด ฯ ได้กล่าวไว้ความว่า
“ ผู้ใดกักตุนสินค้า เขาเป็นผู้กระทำผิด ”
                                                                             ( รายงานโดย มุสลิม )
7.การโกงตาชั่ง หรือการวัดตวง
อัลกุร-อานกล่าวไว้ความว่า
“ ความวิบัติจงมีแก่ผู้ที่เอารัดเอาเปรียบในการชั่งตวง คือ บรรดาผู้ที่เมื่อเขาชั่งตวงเอาจากมนุษย์ก็ต้องเอาเต็ม และเมื่อตวงหรือชั่งให้ผู้อื่นก็ทำให้ขาด ”
                                                               ( สูเราะฮอัล-มุฎ็อฟฟิฟิน อายะฮที่1-3 )








 
  


วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ในชีวิตของคนทุกคน ต้องเคยผ่านร้อนและหนาว
และพบเรื่องราวบางอย่างที่ฝังใจ
ทุกครั้งที่เธอปวดร้าว หมดสิ้นกำลังจะก้าวเดินไป

วันเวลาที่แสนมืดหม่นก็คงจะเดินผ่านไปช้าช้า
จนเธอเองลืมนึกไปว่าได้เดินมาไกลเท่าไร
จนเธอเองมองข้ามบางอย่าง นั่นคือพลังแกร่งกล้าในใจ
ที่ยังฝันอยู่ในจิตใจลึก ๆ มานาน

และในวันนี้ เธอนั้นจงหยัดยืน และลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังในหัวใจ
อย่าไปยอมแพ้ ให้กับปัญหาใด ๆ
จงพร้อมจะอดทนก้าวไปสู่หนทางที่ฝันใฝ่ด้วยตัวเอง
(ก้าวไปสู่แสงทองของวันใหม่ด้วยตัวเอง)

บนถนนที่คนก้าวเดิน จะเป็นดั่งภาพสะท้อนให้เห็นละครที่ต่างชีวิตไป
ทุกครั้งที่เธอหมดหวัง หมดสิ้นกำลังท้อแท้ในใจ
เธอจงมองดูภาพผู้คนที่อยู่เดียวดายด้วยความอ้างว้าง
เพียงเธอมองไปนอกหน้าต่างจะเจอความจริงมากมาย
คงจะทำให้พบคำตอบ ว่าบนทางเดินที่แสนยาวไกล
ทุกชีวิต ต้องเดินออกไป เพื่อสู้ความจริง

ให้เธอได้รู้ นี่แหละใจของคน ที่แท้ยังยิ่งใหญ่
ตราบใดความหวัง ยังไม่จางหายไป เมื่อนั้นใจจะไม่แพ้



อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง

อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่​ 
เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนนึง

 ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า

ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเรา​ทั้งสิ้น

ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ

มีแต่วันนี้ที่มีค่าไม่มีวันหน้​า วันหลัง